IT’S TIME TO GO BACK TO HONG KONG

STORY / Sep 04, 2023

IT’S TIME TO GO BACK TO HONG KONG

ได้เวลากลับไปเยือนฮ่องกงกันอีกครั้ง เมืองระกับโลกของเอเชียแห่งนี้ (Asia’s World City) ยังมีสิ่งใหม่ๆ ให้ไปค้นหาอีกมากมายสัมผัส 7 ประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนของฮ่องกงวันนี้ให้สมกับที่รอยคอยกว่า 3 ปี

Recommended! เดินทางสู่ฮ่องกงอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยสายการแอร์เอเชีย ที่ให้บริการทั้ง เส้นทางบินตรงดอนเมือง - ฮ่องกง 3 เที่ยวบินต่อวัน (6.25 / 10.40 / 17.10 น.) และเส้นทางเชียงใหม่ – ฮ่องกง 1 เที่ยวต่อวัน ด้วยเครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่ กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ พร้อมบริการแบบ Full Service ที่ใส่ใจ คุ้มค่าคุ้มราคา และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น

7 UNFORGETTAB EXPERIENCES IN HONG KONG

1 เสน่ห์ย่านเก่า HISTORIC STREETS

POTTINGER STREET

ถนนสายโบราณที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลักตั้งชื่อตามผู้ว่าการคนแรก Sir Henry Eldred Curwen Pottinger ชาวฮ่องกงมักเรียกกันว่าถนนคิงไดจ่า ปูลาดด้วยก้อนอิฐเป็นแนวยาวไปจนถึง Queen’s Road Central มีเอกลักษณ์ความสวยงาม ราวกับได้ย้อนไปในยุค 1850s มาเดินทอดน่องช้อปปิ้งเสื้อผ้าของกินของใช้รวมถึงอุดหนุนของฝากเก๋ ๆ มากมายตลอดสองข้างทาง

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Central Station ใช้ทางออก G แล้วเดินไปตามถนน Des Voeux Road Central ระยะทางราว 200 ม. ก็จะถึง Pottinger Street



HOLLYWOOD ROAD

หนึ่งในย่านเก่าแก่ที่สุดของฮ่องกง ตลอดสองข้างทางรายล้อมไปด้วย ร้านสินค้า Antique ร้านเฟอร์นิเจอร์ อาร์ตแกลลอรี่ ร้านอาหาร และคาเฟ่ในบรรยากาศตึกเก่าและอาคารโบราณ ถนนเส้นนี้เริ่มต้นตั้งแต่ Possession Street ซึ่งเป็นจุดที่ทางทหารอังกฤษได้เข้ามายึดครองฮ่องกงในปีค.ศ 1814 แล้วตั้งชื่อเกาะฮ่องกงว่า Queen Victoria ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งแฮงเอ้าท์ของนักท่องเที่ยว แหล่งนัดพบของวัยรุ่นและคนทำางาน สามารถมาเดินเล่นและถ่ายรูป แวะนั่งจิบกาแฟได้เพลิน ๆ

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Central Station ใช้ทางออก C เดินไปออกประมาณ 200 ม. จะเจอกับ Hollywood Road



QUEEN’S ROAD CENTRAL

ย่านการค้าชื่อดังใจกลางเมือง เป็นถนนสายเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างตึกสูงระฟ้าทันสมัยที่เข้ากับวัฒนธรรมความเก่าของฮ่องกงได้ลงตัว เป็นย่นยอดฮิตของนักท่องเที่ยวสายช้อปที่ตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าชั้นนำมากมาย มีทั้งห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ และร้านอาหารชื่อดังอย่างร้านห่านย่าง Yung Kee ร้านติ่มซำในตำนาน Luk Yu Tea House นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ ทำเนียบรัฐบาล Government House โบสถ์ St. John’s Cathedral ชิงช้าสวรรค์ Hong Kong Observation Wheel และบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก Central Mid-Levels Escalator อีกด้วย

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Central Station ใช้ทางออก G เดินไปบนถนน Pedder Street 80 ม. ถึง Queen’s Road



2 ไลฟ์สไตล์การพักผ่อนสุดหรูหรา

THE PENINSULA HONG KONG

สุดยอดที่พักหรูที่อยู่คู่ฮ่องกงมาอย่างยาวนาน ด้วยตัวอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ริม Victoria Harbour ในย่าน Tsim Sha Tsui เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำานวยความสะดวกมากมาย โดยเฉพาะสระว่ายน้ำสไตล์โรมันและห้องอาหาร The Lobby ที่เสิร์ฟ Afternoon Tea Set ชื่อดังระดับโลก

Address: Salisbury Road, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

Website: www.peninsula.com/en/hong-kong




MANDARIN ORIENTAL HONG KONG

จุดเริ่มต้นของความหรูหราอันเลื่องชื่อของแบรนด์ Mandarin Oriental อดีตอาคารที่ส่งที่สุดบนเกาะฮ่องกง ตั้งอยู่ใจกลางย่าน Central ที่ยังคงรักษามาตรฐานการให้บริการและมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mandarin Oriental ได้อย่างครบถ้วน เป็นโรงแรมในฝันของนักเดินทางทั่วโลก

Address: 5 Connaught Road, Central, Hong Kong

Website: www.mandarinoriental.com/en/hong-kong/the-landmark


FOUR SEASONS HOTEL HONG KONG

เดสติเนชั่นพักผ่อนในฝันอันดับต้น ๆ ของฮ่องกงสมบูรณ์แบบด้วยห้องพักกว้างขวาง หรูหรา สามารถชมวิวฮ่องกงมุมส่งได้แบบพาโนรามา นอกจากนี้ยังเป็นโรงแรมที่มีห้องอาหารได้จำนวนดาวมิชีลินรวมกันเยอะที่สุดในโลกอีกด้วย

Address: 8 Finance Street, Central, Hong Kong

Website: www.fourseasons.com/hongkong


3 แหล่งรวมความอร่อยติดดาว MICHELIN STAR DINING EXPERIENCE

BELON RESTAURANT

ร้านอาหารสไตล์ Neo-Parisian ด้วยกรรมวิธีการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศสดั้งเดิม พิถีพิถันในทุกรายละเอียด คัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดตามฤดูกาลฝีมือเชฟมากประสบการณ์กว่า 20 ปี เสิร์ฟเมนูรสเลิศ หน้าตาสวยงาม พร้อมแชมเปญและไวน์ชั้นดีจากฝรั่งเศส เมนูแนะนำาคือ Ocean Trout with Horserdish and Dill และ Cannelloni of Tiger Prawn

Address: 1st Floor, 1-5 Elgin Street, Central, Hong Kong

Open: ทุกวัน 18.00 - 23.00 น.



THE CANTON ROOM

ห้องอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งต้นตำรับที่โด่งดังด้วยเมนูข้าวหมูแดงที่ยอดเยี่ยมที่สุุดบนเกาะฮ่องกง ปรุงรสได้ถูกระเบียบราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ “คนเล็กกุ๊กเทวดา” คัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดทั้งเนื้อหมูท้องถิ่น ไข่ไก่จากญี่ปุ่นและข้าวหอมมะลิเกรดดีของไทย เสิร์ฟเป็นเซตพร้อมจานรองท้อง ซุป ขนมหวาน และน้ำชา สายกินต้องห้ามพลาด

Address: 72/1, Gloucester Road, Wan Chai, Hong Kong

Open: ทุกวัน 10.00 - 15.00 น. / 18.00 - 23.00 น.



HANSIK GOO

Modern Korean Cuisine ร้านดังในย่าน Wellington Street ที่เน้นเสิร์ฟอาหารเกาหลีต้นตำรับแบบ Home Style Food เรียบง่าย เป็นส่วนตัวเหมือนได้มาทานอาหารที่บ้านเพื่อนนำทัพมาด้วยเมนูอร่อยมากมาย เช่น เมนูรวมทะเล Hweh Muchim และ ขาวยำเกาหลี Haesan Bibimbap เป็นต้น

Address: 1/F, The Wellington, 198 Wellington Street, Sheung Wan, Hong Kong

Open: 18.00 - 23.00 น. หยุดวันอาทิตย์





4 CAFÉ HOPING คาเฟ่สวย ดีไซน์เก๋

NOC COFFEE (EMPIRE CENTRE)

คาเฟ่ Specialty Coffee ลุคมินิมอลสุดเท่ที่ดังไกลมาจนถึงเมืองไทย ที่นอกจากจะมีจุดเด่นอยู่ที่กาแฟสุดเข้มข้นพร้อมด้วยเมนูบรันช์ และสมูตตี้โบวล์ที่หลากหลายแล้วยังถือเป็นคาเฟ่ขวัญใจของคนรักงานดีไซน์อีกด้วย

Address: Floor G, Empire Centre, 68 Mody Road, Tsim Sha Tsui, Central, Hong Kong

Open:ทุกวัน 8.00 - 18.00 น.




THE COFFEE ACADEMÏCS (CAUSEWAY CENTRE)

คาเฟ่สัญชาติฮ่องกงที่โด่งดังจนต้องขยายสาขาไปไกลถึงเมืองไทย มีจุดเด่นคือ คุณภาพของเมล็ดกาแฟชั้นยอดที่คัดสรรค์คด้วยทีมงานมืออาชีพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูก เก็บ คั่ว จนได้เป็นเมนูกาแฟสุดเข้มข้น ในบรรยากาศร้านสไตล์ลอฟท์สุดเท่ ครองใจชาวฮ่องกงมายาวนาน

Address: Shop 7, 1/F, Causeway Centre (Brim 28), 28, Harbour Road, Wan Chai, Hong Kong

Open:7.30 - 15.30 น. หยุดเสาร์ – อาทิตย์




% ARABICA HONG KONG (STAR FERRY)

ร้านกาแฟแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่มาปักหลักในฮ่องกง ได้รับความนิยมจนดังไปทั่วเอเชียสาขานี้มีความเก๋อยู่ที่ตั้งอยู่ริมทะเลในย่าน Star Ferry ที่โดดเด่นทั้งเมนูเครื่องดื่มและการออกแบบสไตล์มินิมอลสุดโดนใจห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

Address: Shop KP-41, 1/F, Star Ferry Pier, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

Open:ทุกวัน 9.00 - 19.00 น.




5 WEST KOWLOON CULTURE DISTRICT

ศูนย์รวมืศิลปะและไลฟ์สไตล์สุดสร้างสรรค์

HONG KONG PALACE MUSEUM

พิพิธภัณฑ์กู้กงแห่งใหม่ของฮ่องกงสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและวัฒนธรรมแหล่งขุมทรัพย์แห่งโบราณวัตถุหายากโดยเฉพาะคอลเลกชันเครื่องสังคโลกจีนและศิลปะโบราณกว่า 900 ชิ้น ที่นำมาจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่งถือเป็นการส่งมอบครั้งยิ่งใหญ่และมีมูลค่ามากที่สุดที่กรุงปักกิ่งเคยมอบให้แก่สถาบันทางวัฒนธรรมนอกจีนแผ่นดินใหญ่ไม่เพียงเท่านี้ภายในยังมีผลงานชิ้นเอก 13 ชิ้น ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ฝรั่งเศส ส่งมอบมาให้จัดแสดงอีกด้วย เสริมความยิ่งใหญ่ให้สมฐานะศูนย์กลางการผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกแห่งฮ่องกงอย่างแท้จริง

Address: 8 Museum Drive, West Kowloon, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

Open:10.00 - 20.00 น. หยุดวันอังคาร




M+ MUSEUM

พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยแห่งล่าสุดบนเกาะฮ่องกงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บนพื้นที่ 65,000 ตร.ม. ตัวอาคารออกแบบสถาปนิกชื่อดังระดับโลกอย่าง Jacques Herzog และ Pierre de Meuron โดยตั้งชื่อตามคอนเซ็ปต์ “Museum and More” ที่ต้องการให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์ โดยการนำาสนอผลงานทั้งด้านทัศนศิลป์ ดีไซน์ สถาปัตยกรรม รวมถึงผลงานศิลปะและภาพเคลื่อนไหว ต่าง ๆ ของศิลปัินระดับุโลกุ อาทิ Ai Weiwei Tehching Hsieh และ Liu Heung Shing เป็นต้น มีโรงภาพยนตร์ถึง 3 โรง ห้องบรรยาย ห้องสมุด ศูนย์การเรียนรู้ร้านอาหาร คาเฟ่ และห้องจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รวมถึงมีระเบียงดาดฟ้าให้ชมความงามของอ่าววิคตอเรียอีกด้วย

Address: 38 M+ Cultural District, West Kowloon, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

Open: 10.00 - 18.00 น. หยุดวันจันทร์



XIQU CENTRE

ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมสำหรับชมอุปรากรกวางตุ้งและอุปรากรจีนโบราณ (งิ้ว) ที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม ภายใต้อาคารเก๋ที่สร้างขึ้นจากการนำโคมไฟจีนมาตีความใหม่ จัดวางองค์ประกอบสไตล์ดั้งเดิมเข้ากับดีไซน์โมเดิร์นลงตัว ภายในมีโรงละคร Grand Theatre ที่มีการแสดงงิ้วจากคณะนักแสดงฝีมืออันดับต้น ๆ ในภูมิภาค และ Tea House Theatre โรงละครบรรยากาศอบอุ่นที่มีโซนโรงน้ำชาย้อนยุคในช่วงศตวรรษที่ 20 ให้เพลิดเพลินกับน้ำชาและติ่มซำรสเด็ด เคล้าการแสดงศิลปะอันมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีเวิร์คชอปการเสวนา และนิทรรศการหมุนเวียนอยู่เป็นประจำ พร้อมด้วยร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร

Address: 88 Austin Road West, West Kowloon, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

Open: ทุกวัน 10.00 - 22.30 น.



6 GREAT OUTDOORS กิจกรรมีสุดมันส์ที่หลายคนคาดไม่ถึง

TREKKING TO THE DRAGON BACK

ปลีกตัวมาสัมผัสกับธรรมชาติจากฮ่องกงแสนวุ่นวายเทรกกิ้งเรียกเหงื่อไปบนเขาสันหลังมังกรที่ทอดตัวยาวไปตามแนวคาบสมุทร Shek O หนึ่งในเส้นทางเดินเขายอดนิยมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเหมาะสำหรับนักเดินเขามือใหม่ มีจุดชมวิวไฮไลท์ให้แวะพัก 3 จุด คือจุดชมวิวคาบสมุทรเช็คโอ จุดยอดเขาเช็คโอ และแนวเทือกเขาพอตทิงเกอร์แก๊ป แต่ละจุดสามารถมองเห็นทิวทัศน์แสนตระการตาของเกาะฮ่องกงตอนใต้และแนวชายฝั่งทะเลได้อย่างสวยงาม และสามารถลงเล่นน้ำหรือโต้คลื่นที่ปลายทางอย่างบิ๊ก เวฟ เบย์พักผ่อนหย่อนใจปิดท้ายการเดินเขาครั้งนี้ได้ด้วย

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Shau Kei Wan ใช้ทางออก A เพื่อไปต่อรถประจำทางสาย 9 เดินทางไปยังสถานี To Tei Wan Station บนถนน Shek O



STAND-UP PADDLING EXPLORE YUNG SHUE O TO SHAM CHUNG

อีกหนึ่งกิจกรรมของคนรักกีฬาทางน้ำที่กำลังมาแรงคือ การพาย SUP Board ไปสำรวจวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ เริ่มต้นที่ Three Fathoms Cove อยู่ติดกับ Yung Shue O ชุมชนเรือนแพในเขต Sai Kung ที่สามารถพายลัดเลาะไปชมบ้านเรือนแพดั้งเดิมที่ลอยตัวอยู่ท่ามกลางผืนน้ำสีฟ้าใสจากนั้นพายต่อไปตามลำน้ำ Shenzhen River จนถึงหมู่บ้านริมน้ำ Sham Chung ซึมซับกับความเงียบสงบ เรียบง่าย พร้อมแวะพักที่คาเฟ่สุดชิลและอิ่มอร่อยที่ร้านอาหารเจ้าดังกับเมนูหมูตุ๋นสไตล์ฮกเกี้ยนและไข่เจียวหอยนางรมอันขึ้นชื่อ

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Wu Kai Sha Station แล้วต่อรถบัสมายังหมู้บ้าน Tseng Tau ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นสามารถเช่า SUP Board เริ่มพายจากที่นี้ได้เลย


HOPPING AROUND THE OLDEST FISHING VILLAGES IN TAI O, LANTAU ISLAND

สำรวจหมู่บ้านชาวประมงสุดอันซีนที่มีความเก่าแก่ที่สุดของฮ่องกงบนเกาะลันเตา ได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่ง ฮ่องกง” บรรยากาศคลาสสิก ละลานตาไปด้วยรอยยิ้มและความเป็นมิตรของผู้คนในหมู่บ้าน มีร้านอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ มีเมนูของหวาน เต้าฮวยสูตรโบราณที่มีทั้งแบบร้อนและเย็น รสชาติหวานมัน มีจุดเช็กอินวิวท่าเรือโบราณและท้องทะเลใสเป็นฉากหลัง

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Tung Chung Station แล้วเดินต่อไปสถานี Tung Chung Town Bus Terminus นั่งรถบัสประจำาทางสาย 11 มายังสถานี Tai O Bus Station ใช้เวลาประมาณ 20 นาที


NGONG PING VILLAGE

อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของคนไทย คือการขึ้นไปบนยอดเขาที่วัดโปหลิน เพื่อสักการะพระพุทธรูปเทียนตานหรือพระใหญ่ พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์กลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีความส่งถึง 34 ม. และไปเช็กอินกับ Wisdom Path ทางเดินแห่งปรัชญาที่เรียงรายไปด้วยเสาไม้แกะสลักมากกว่า 38 ต้น โดยนั่งเคเบิ้ลคาร์ Ngong Ping 360 กระเช้าไฟฟ้าพื้นกระจกแบบ Crystal Cabin ที่สามารถชมวิวธรรมชาติของเกาะลันเตาได้แบบ 360 องศา บริเวณจุดชมวิวบนยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อย่างสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลกที่เชื่อมต่อระหว่างฮ่องกง – จูไห่ – มาเก๊า ได้อย่างชัดเจนสวยงามอีกด้วย ขากลับยังสามารถเดินช้อปใน City Outlet ทานของอร่อย นั่งจิบกาแฟที่สตาร์บัคเพลิน ๆ

การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Tung Chung ทางออก B จากนั่นเดินอีกประมาณ 5 นาที จะถึง Ngong Ping Village หรือสามารถนั่งรถบัสประจำาทางสาย 21 จาก Tai O Village เดินทางมายัง Ngong Ping Village ได้อย่างสะดวกเพียง 10 นาที






THE EXPERT RECOMMENDATION

คุณพจน์ ศกุนตะลักษณ์

ผู้จัดการจากการท่องเที่ยวฮ่องกงประจำประเทศไทย

ฮ่องกงเปิดประเทศครั้งนี้ ถึงจะยังไม่กลับมา 100% แต่มั่นใจได้เลยว่าเสน่ห์ของฮ่องกงที่คุ้นเคยยังอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น วัดศักดิ์สิทธิ์ แหล่งช้อปปิ้ง อาหารอร่อยเด็ด รวมถึงจุดหมายในฝันของครอบครัวอย่างฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ที่ยังคงพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวกันอย่างคึกคักเหมือนเดิม ไม่เพียงเท่านี้ฮ่องกงก็มีความสดใหม่ที่รอให้ไปเยือนอีกมากมายเช่นเดียวกัน

แม้ว่าฮ่องกงจะเป็นจุดหมายยอดฮิตที่อยู่ในใจคนไทยเสมอมา แต่หลายคนยังคงมีคำพูดติดปากกันว่า “เที่ยวฮ่องกงไปเช้ากลับเย็นก็พอแล้ว” ส่วนตัวผมไม่อยากให้มองแบบนั้น อยากให้ลองเปลี่ยนความคิดแล้วมองฮ่องกงในฐานะประตูสู่เมืองจีนทีมีดีมากกว่าการไหว้พระหรือการช้อปปิ้ง เพราะถ้าหากเราลองทำความรู้จักฮ่องกงให้ลึกขึ้น เราจะได้พบกับมุมมองใหม่ ๆ ของฮ่องกงมากกว่าที่เคยรู้จักให้มาเที่ยวแบบไม่ซ้ำกับทริปเดิมแน่นอนครับ

7 HONG KONG DISNEYLAND อาณาจักรแห่งความสุข

พิกัดความสนุกสุดฮิตที่กลับมาร้ายมนต์มหัศจรรย์อีกครั้ง สนุกสนานไปกับเหล่าตัวละครจากการ์ตูนดิสนีย์และพิกซาร์ที่คุ้นเคยกันดี พร้อมกับ 7 ธีมโซน ความหรรษาที่ได้รับการปรับปรุงโฉมใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องเล่น การแสดง และขบวนพาเหรดของตัวละครชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น

MAIN STREET U.S.A.

ถนนสายคันทรีที่มีร้านขายของที่ระลึก และมีรถไฟวนรอบสวนสนุก

ADVENTURELAND และ GRIZZLY GULCH

สองดินแดนผจญภัยสุดพิศวง

TOY STORY LAND

อาณาจักรของเหล่าตุ๊กตาที่มีชีวิต

FANTASYLAND

ดินแดนเจ้าหญิง เจ้าช้ายแห่งเทพินิยายในฝัน

TOMORROWLAND

โลกอนาคตสุดล้ำเกินจินตนาการ

MYSTIC POINT

คฤหาสน์ผีสิงขนหัวลุก บรรยากาศลึกลับน่าค้นหา

และโซนใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดให้เข้าชมในปี 2566 นี้อย่าง WORLD OF FROZEN ดินแดนน้ำแข็งสุดยิ่งใหญ่แห่งแรกของโลกที่ทุกคนรอคอย



ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์มีการปรับโฉมปราสาท Castle of Magical Dreams ครั้งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ โดยมีแนวคิดการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก 13 เรื่องราวของเจ้าหญิงและราชินีแห่งจักรวาลดิสนีย์ นำเรื่องราวและฉากอันคุ้นตามาตกแต่งเป็นส่วนต่าง ๆ ของปราสาทไม่ว่าจะเป็นหอคอย ป้อมปราการ โดม และยอดแหลม ที่มีเอกลักษณ์ เปิดประตูต้อนรับให้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายใน ทั้งในส่วนของ “The Royal Reception Hall” โถงรับรองหลวงที่ตกแต่งประณีตและหรูหรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ผู้มาเยือน และ “Enchanted Treasures” ท้องพระคลังอันงดงามที่เป็นร้านเครื่องประดับ แห่งแรกของ Chow Tai Fook






อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับไฮไลท์พลาดไม่ได้อย่าง “Follow Your Dreams” ปาร์ตี้ดนตรีสดกลางแจ้งในตอนกลางวัน ครั้งแรกของเหล่าตัวละครดิสนีย์อย่าง มิกกี้ เมาส์ และผองเพื่อน ที่จะมาสาดความสุข เคล้าเสียงเพลงและทวงทำนองอันทรงพลัง ที่ได้รวบรวมเอาจิตวิญญาณของเพลงดิสนีย์มาร้อยเรียงเป็นบทเพลงใหม่ Follow Your Dreams มอบแรงบันดาลใจในการไล่ตามความฝันอย่างไม่ย่อท้อให้ผู้ฟัง และ “Momentous Show” โชว์พลุสีสันตระการตาบริเวณลานน้ำพุหน้าปราสาท Castle of Magical Dreams ที่จะเปลี่ยนท้องฟ้ายามค่ำคืนให้สว่างไสวไปด้วยแสงสีเสียง และองค์ประกอบมัลติมีเดียสุดล้ำทั้งเทคโนโลยีการฉายภาพ 3 มิติ ขนาดใหญ่ น้ำพุพุ่งตามจังหวะ การฉายภาพในน้ำผ่านเลเซอร์ การจัดแสงละคร เอฟเฟกต์ไพโร และดอกไม้ไฟที่สวยอลังการยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เคล้าคลอด้วยเพลงประกอบสุดคุ้นหูจากวงออเคสตราเต็มวงที่จะพาให้ผู้ชมได้ร่วมเดินทางไปกับเรื่องราวของตัวละครขวัญใจชาวดิสนีย์กว่า 150 ชีวิต เต็มอิ่มตลอด 20 นาทีเต็ม ประทับ ใจคุ้มค่าสมกับการรอคอย ไม่เพียงแค่มอบที่สุดประสบการณ์ด้านความบันเทิงเท่านั้น Hong Kong Disneyland ยังเพียบพร้อมไปด้วยที่สุดแห่งความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์การพักผ่อนในหลากหลายสไตล์ของทุกครอบครัว





DISNEY EXPLORERS LODGE

โรงแรมหรูที่ให้บรรยากาศการพักผ่อนท่ามกลางความรื่นรมย์ของธรรมชาติ ตกแต่งตามสีสภาพภูมิอากาศเขตร้อน

HONG KONG DISNEYLAND HOTEL

โรงแรมที่เติมเต็มความฝันในการใช้ชีวิตแบบเจ้าหญิงในราชวังสไตล์วิกตอเรียโอ่อ่าริมชายหาดที่มีห้องสวีทซินเดอเรลล่าคิงด้อมคลับ และห้องสวีทโฟรเซ่นคิงด้อมคลับ ที่จะเติมเต็มความฝันในวัยเด็กให้สมบูรณ์แบบ แนะนำกิจกรรมสันทนาการในโรงแรมที่สามารถร่วมสนุกกับเพื่อน ๆ ดิสนีย์ได้ เช่น ฝึกไทเก๊กกับมาสเตอร์มิกกี้ ถือเป็นกิจกรรมที่น่าลองมาก ๆ



การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Hong Kong Disneyland Resort ซึ้งเป็นสายแยกพิเศษสำหรับเดินทางมายังดิสนีย์แลนด์โดยเฉพาะ และมีการตกแต่งขบวนรถไฟด้วยธีมการ์ตูนดิสนีย์อีกด้วย

ลิขสิทธิ์ภาพโดย : ©Disney ©Disney/Pixar ©2023 MARVEL

จองตั๋วเครื่องบินฮ่องกง แพ็กเกจฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ได้ที่ KTC WORLD โทร. 02 123 5050 บริการ 24 ชม. ทุกวันไม่เว้นวันหยุด @KTCWORLD KTC WORLD COMMUNITY



travel IT’S TIME TO GO BACK TO HONG KONG

Traveller Man

นักเที่ยวตัวฉกาจ | Story: 25 | COMMENT: 265 | LIKE: 560

"ท่องเที่ยวไปใน ทุกที่"

Comment


กรุณาเข้าสู่ระบบก่อน เพื่อแสดงความคิดเห็น