Fantastic Festivals Worldwide Worth Witnessing

STORY / Dec 12, 2023

Fantastic Festivals Worldwide Worth Witnessing

ปักหมุดวางแผนเที่ยวเทศกาลดังทั่วโลก สัมผัสสีสันความสนุกและวิถีแห่งความสุข ที่ดึงดูดผู้คนให้ไปเยือน

1. HARBIN ICE FESTIVAL – Harbin, China


ท้าความหนาวอุณหภูมิติดลบ ชมปราสาทและประติมากรรมน้ำแข็งสุดอลังการในเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งชื่อดังของจีน ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตื่นตากับผลงานจากฝีมือผู้เข้าแข่งขันทั่วโลกมาประชันความงดงามกันช่วงค่ำยังมีการเปิดไฟโชว์ผลงานด้วยสีสันอันน่าตื่นตาตื่นใจ 


Date: 20 ธ.ค. 66 - 5 มี.ค. 67

Location: West side of Sun Island, Songbei District, Harbin, China

Website: www.icefestivalharbin.com



2. SHIRAKAWA-GO LIGHT-UP FESTIVAL – Shirakawago, Japan


เทศกาลแสงไฟ ณ หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะจังหวัดกิฟุ ภาคกลางของญี่ปุ่น ที่ใคร ๆ ต่างรอคอยและใฝ่ฝันที่จะได้ไปชมความสวยงามของบ้านโบราณแบบกัสโชสึคุริ อายุ 300 ปี ลักษณะพิเศษคือมีหลังคาชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน ซึ่งจะถูกฉาบไปด้วยแสงไฟสลัว ๆ สะท้อนภาพลงบนพื้นที่กลายเป็นแผ่นน้ำแข็ง ท่ามกลางบรรยากาศหิมะขาวโพลนแสนโรแมนติกชวนฝัน เทศกาลนี้จะจัดขึ้นช่วงกลางเดือน ม.ค. ไปจนถึงกลางเดือน ก.พ. เปิดไฟเฉพาะวันอาทิตย์ ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ นักท่องเที่ยวจะต้องจองคิวล่วงหน้า จำกัดจำนวนผู้เข้าชม เพื่ออนุรักษ์ความงดงามของหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ให้คงอยู่ไปอีกนานแสนนาน


Date: 14 ม.ค. - 18 ก.พ. 67 (เฉพาะวันอาทิตย์ 6 วัน)

Location: Shirakawa-go Valley, Ohno District, Gifu, Japan

Website: shirakawa-go.gr.jp


3. WINTERLUDE FESTIVAL – Ottawa, Canada


เทศกาลฤดูหนาวชื่อดังของแคนาดา  จัดต่นานถึง 3 สัปดาห์เต็ม ๆ ที่ลานน้ำแข็งริโด้ (Rideau Canal) คลองสายหลักของเมืองออตตาวาที่แข็งตัวจนกลายเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในโลก สามารถลงไปเล่นกีฬาหรือจัดงานคาร์นิวัลบนธารน้ำแข็งได้ มีทั้งการแข่งขันฮ็อกกี้น้ำแข็งและสเก็ตน้ำแข็ง ตลาดนัดฤดูหนาวท่ามกลางอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคสุดคลาสสิกของเมืองออตตาวา รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านไวน์ ร้านขนมหวานแสนอร่อยมากมาย และยังมีกิจกรรมการประกวดประติมากรรมน้ำแข็งที่สวยงามยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนอีกด้วย


Date: 2 ก.พ. - 19 ก.พ. 67

Location: The Urban Ottawa-Gatineau, Ottawa, Canada

Website: ottawatourism.ca


4. MARDI GRAS – New Orleans, USA


เทศกาลสีสันแห่งหลุยเซียน่า อเมริกา หนึ่งในประเพณีโบราณที่จัดต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ปีค.ศ. 1870 ในวันพุธรับเถ้า (Ash Wednesday) 1 วัน ซึ่งตรงกับวันอังคารมาร์ดิกราส์ เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า Fat Tuesday ชาวคริสเตียนจะมาร่วมกันทานอาหารและฉลองก่อนเข้าสู่ช่วงถือศีลอดไปจนถึงวันอีสเตอร์ ถนนทุกสายในเมืองจะเต็มไปด้วยผู้คนและขบวนพาเหรดแฟนซีสุดหรูหรา ออกมาประกวดและเดินฉลองทั่วทั้งเมืองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ มีการโยนสร้อยลูกปัดจากขบวนรถพาเหรดให้ผู้ชมข้างทาง พอตกดึกก็จะมาเต้นรำไปจนถึงเวลาเที่ยงคืนของวัน Fat Tuesday 


Date: 13 ก.พ. 67

Location: Bourbon Street, the French Quarter, New Orleans, Louisiana, USA

Website: www.mardigrasneworleans.com


5. VENICE CARNIVAL – Venice, Italy


แต่งตัวสวมหน้ากาก Mascareri ที่ออกแบบตามสไตล์เวเนเชียนสุดวิจิตรตระการตา โดยช่างทำหน้ากากในศตวรรษที่ 11 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากละครเวที Commedia dell’Arte แล้วไปนั่งเรือกอนโดล่า (Gondola) ล่องเที่ยวไปตามลำคลอง ลัดเลาะผ่านสถาปัตยกรรมแสนโรแมนติกในเวนิส พร้อมชมบรรยากาศความคึกคักของเทศกาลหน้ากากแฟนซีที่โด่งดัง โดยทุกวันอังคารและเสาร์ สองสัปดาห์แรกของเดือนก.พ. ชาวเมืองจะแต่งคอสตูมและสวมหน้ากากออกมาเดินอวดโฉมทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะที่ลานจัตุรัส Basilica San Marco จะมีทั้งขบวนพาเหรด เวทีคอนเสิร์ต และนิทรรศการจัดแสดงประวัติของเทศกาล รวมถึงมีตลาดนัดที่เต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหารอร่อย ๆ มากมายมาตั้งเรียงรายให้เดินช้อปเล่นอย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน 


Date: 3 ก.พ. – 13 ก.พ. 67 (เฉพาะวันอังคารและเสาร์)

Location: Centro storico Venezia, Metropolitan City of Venice, Italy

Website: www.venice-carnival-italy.com


6. RIO CARNIVAL – Rio de Janeiro, Brazil


สายปาร์ตี้ต้องไม่พลาดกับคาร์นิวัลที่ยิ่งใหญ่และมีสีสันที่สุดในโลก เทศกาลเฉลิมฉลองก่อนถึงช่วงถือศีลอดประจำปีของชาวบราซิลที่จัดต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1930 เป็นระยะเวลาทั้งหมด 4 วัน ตั้งแต่วันศุกร์ก่อนถึงวันพุธ Ash Wednesday บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริง วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของชชาวบราซิล ในแต่ละปีจะมีขบวนพาเหรดจากโรงเรียนสอนเต้นแซมบ้าชื่อดังทั่วประเทศส่งเข้าประกวดความสวยงามและร่วมโชว์ท่วงท่าลีลาโยกย้ายส่ายสะโพกปลุกความคึกคักของนักท่องเที่ยว โดยแต่ละสำนักก็จะมีสไตล์ ดนตรี และเครื่องแต่งกายที่สวยงามอลังการแตกต่างกันไป 


Date: 9 ก.พ. - 17 ก.พ. 67

Location: Sambadrome Stadium, Rio de Janeiro, Brazil

Website: www.riocarnaval.org



7. PINGXI SKY LANTERN FESTIVAL – New Taipei City, Taiwan


เทศกาลปล่อยโคมที่เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและการเริ่มต้นใหม่ พิธีเฉลิมฉลองที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน จัดขึ้นประจำทุกปีในช่วงตรุษจีนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1999 ในเมืองผิงซี เมืองเล็ก ๆ ท่ามกลางภูเขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลไทเป เมืองจะเต็มไปด้วยผู้คนออกมาฉลองวันปีใหม่จีน ชมการจุดพลุไฟสวยงาม มีเวทีคอนเสิร์ต และตลาดนัดย้อนยุคที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านโคมไฟสวยงามต่าง ๆ มากมาย ก่อนจะไปรวมตัวกันปล่อยโคมที่รางรถไฟที่หมู่บ้านโบราณ Shifen โดยโคมไฟกระดาษหลายพันดวงจะถูกเขียนข้อความอธิฐานและปล่อยขึ้นไปสว่างไสวบนท้องฟ้า เริ่มตั้งแต่ช่วงพลบค่ำไปตลอดทั้งคืน


Date: 24 ก.พ. 67

Location: Shifen Old Street, Pingxi District, New Taipei City, Taiwan

Website: eng.taiwan.net.tw/


8. ST. PATRICK’S DAY – Dublin, Ireland


มาร่วมฉลองและแต่งตัวเป็น Lobaircin มาสคอตประจำเทศกาล St. Patrick’s Day วันแห่งการระลึกถึงนักบุญแพทริก นักบุญคนสำคัญของไอร์แลนด์ที่ได้รับความศรัทธาอย่างมากมาจนถึงปัจจุบัน โดยในวันนี้ชาวไอริชจะแต่งกายด้วยชุดสีเขียว ซึ่งเป็นสีหนึ่งในสามสีหลักของธงชาติไอร์แลนด์ ออกมาดื่มกินและเดินฉลองกันทั่วทั้งเมือง พอตกเย็นก็จะไปเข้าร่วมงานเต้นระบำที่เรียกว่า “Irish Dance” และทานมื้อค่ำด้วยเมนูประจำถิ่นอย่าง Corned Beef and Cabbage โรยหน้าด้วยใบ Shamrock เพื่อสื่อถึงความศรัทธาและการระลึกถึงนักบุญเซนต์แพทริก


Date: 17 มี.ค. - 18 มี.ค. 67

Location: Parnell Street - Kevin Street, Dublin, Ireland

Website: stpatricksfestival.ie


9. HOLI FESTIVAL – New Delhi, India


สนุกสนานจัดเต็มไปกับ Festival of Colours เทศกาลสาดสีที่มีความคล้ายคลึงกับเทศกาลสงกรานต์ของไทย โดยจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตามเมืองหลวงและเมืองสำคัญของอินเดีย รวมถึงเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีชาวฮินดูอาศัยอยู่ ตลอดทั้งวันชาวอินเดียจะใส่เสื้อขาวออกมาปาผงสีที่บดมาจากสมุนไพรใส่กันอย่างสนุกสนาน และเมื่อเสร็จแล้วจะนำเสื้อที่เปื้อนสีไปทำลายเพราะเชื่อกันว่าเป็นการขจัดสิ่งชั่วร้ายและฉลองเริ่มต้นชีวิตใหม่ เทศกาลนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญยังเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เทศกาลในอินเดียที่ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะกันอีกด้วย


Date: 25 มี.ค. - 26 มี.ค. 67

Location: Golden Triangle Tourist Circuit, New Delhi, India

Website: www.holifestival.org


10. KING’S DAY – Amsterdam, Netherlands


หนึ่งในเทศกาลที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากที่สุดในโลก พิธีเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์แห่งเนเธอร์แลนด์ แต่เดิมคือ Queen’s Day เนื่องจากสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ ซึ่งเป็นราชินีเพียงองค์เดียวในตลอดระยะเวลา 130 ปี ได้ครองราชย์มาอย่างยาวนาน แต่หลังจากได้ส่งต่อบัลลังก์ให้กับสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์ จึงถูกเปลี่ยนเป็นวันพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตามชาวดัตช์ส่วนใหญ่แทบไม่สังเกตถึงความแตกต่าง อีกทั้งวันหยุดแค่เปลี่ยนจากวันที่ 30 เม.ย. มาเป็น 27 เม.ย. เท่านั้น จึงทำให้ความยิ่งใหญ่และความคึกคักของผู้คนที่รอคอยเทศกาลนี้ไม่เคยลดลงไปแม้แต่น้อย ตลอดทั้งวันชาวดัตซ์จะสวมเสื้อสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำราชวงศ์ออเรนจ์ ออกมาเดินฉลองไปตามถนนสายหลัก รวมถึงล่องเรือไปตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ ในอัมสเตอร์ดัม ก่อนจะไปรวมพลฉลองกันบริเวณหน้าพระราชวัง Royal Palace Amsterdam อย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ


Date: 27 เม.ย. 67

Location: Beethovenstraat, Stadionweg and Apollolaan, Amsterdam Zuid, Amsterdam, Netherlands

Website: www.iamsterdam.com





travel Fantastic Festivals Worldwide Worth Witnessing

Traveller Man

นักเที่ยวตัวฉกาจ | Story: 25 | COMMENT: 265 | LIKE: 560

"ท่องเที่ยวไปใน ทุกที่"

Comment


กรุณาเข้าสู่ระบบก่อน เพื่อแสดงความคิดเห็น