8 Highlights In Dolomites

STORY / Aug 09, 2022

8 Highlights In Dolomites

เทือกเขา Dolomites หรือมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีกเช่น Dolomite Alps, Dolomitic Alps เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี ส่วนหนึ่งของเทือกเขาหินปูนตอนใต้ที่ทอดยาวจากแม่น้ำ Adige ทางตะวันตกไปยังหุบเขา Piave ทางตะวันออก


เทือกเขาโดโลไมท์ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองกรณ์ UNESCO ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 นับเป็นอีกหนึ่งธรรมชาติที่สวยสดงดงามแห่งหนึ่งของโลก


และวันนี้ My World Online เราจะพาทุกท่านไปชม 8 แห่ง สถานที่ไฮไลท์ ที่ขึ้นชื่อของเทือกเขาโดโลไมท์


1. Seiser Alm

Seiser Alm


ที่ราบสูงอัลไพน์บนยอดเขาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปหรือที่รู้จักกันในอีกชื่อคือ Alpe di Siusi วิธีขึ้นไปชมวิวที่ดีที่สุดคือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้า Funivie Ortisei จากเมือง Ortisei หรือถ้ามีเวลาสามารถเที่ยวแบบ One Day Trip โดยใช้บริการรถม้าจากเมือง Monte Piana เพื่อขึ้นไปชมยอดเขา แลนด์มาร์คของ Seiser Alm คืออาคารไม้โบราณกลางลานหญ้าที่มีวิวของเทือกเขาโดโลไมท์สุดอลังการเป็นภาพพื้นหลัง กิจกรรมยอดนิยมบริเวณเนินเขาแห่งนี้คือ การเดินป่า ปีนเขา ปั่นจักรยาน เล่นเครื่องร่อน หรือนอนปิกนิกอาบแดดอย่างสบายใจ 



2. Lago di Carezza (Lake of Carezza)

Lago di Carezza (Lake of Carezza)


ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ วิวหลักล้าน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานโดโลไมท์ มีอีกชื่อคือ “Lec de ergobando” แปลว่า ทะเลสาบสายรุ้ง ตั้งชื่อตามสีของน้ำในทะเลสาบที่มีหลายเฉดสี ทั้ง สีเขียว สีฟ้าเทอร์ค้อย และสีน้ำเงิน ผสมกันสวยงาม มีฉากหลังเป็นป่าสนและเทือกเขา Latmar สูงเสียดฟ้า ตั้งสง่าห้อมล้อมทะเลสาบไว้ สะท้อนสีสันที่หลากหลายของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกจุดแวะถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้





3. Val di Funes



ชุมชนเล็ก ๆ กลางหุบเขาทางฝั่งตะวันตกของอุทยานโดโลไมท์ อยู่ห่างจากเมือง Bolzano ประมาณ 30 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือ หรือประมาณ 35 กม. ทางเหนือของเมือง Ortisei ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กหลายแห่ง เช่น San Pietro, San Giacomo, Valluzza, San Valentino และ Santa Maddalena หมู่บ้านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุด เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม แลนด์มาร์คสำคัญคือ โบสถ์ Saint Maddalena สีขาวบนทุ่งหญ้ากว้างสีเขียวเเซมด้วยดอกไม้ ฉากหลังเป็นยอดเขาหินปูน Odle - Geisler ตั้งตระหง่านตัดกับท้องฟ้าสีสดใส 



4. The Vallunga

The Vallunga


เส้นทางเดินป่าเลียบกำแพงหินผา Selva di Val Gardena เข้าสู่ชุมชน The Vallunga จุดเชื่อมต่อระหว่างกลุ่มเทือกเขาโดโลไมท์และเขตอุทยานแห่งชาติ Puez Geisler ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น UNESCO World Natural Heritage มีความโดดเด่นในด้านวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในทุกซีซั่น เพราะสามารถมาเอ็นจอยกับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เดินป่า ปีนหน้าผา ปั่นจักรยาน รวมถึงมาเล่นสกีในฤดูหนาวอีกด้วย



5. Marmolada

Marmolada


ยอดเขาที่สูงสุดสุดในอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ มีฉายาว่า “The Queen of the Dolomites” ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของ Trentino และ Veneto Marmolada บนความสูง 3,342 ม. เหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นพิกัดที่ท้าทายเหล่านักผจญภัยทั่วโลกที่ต้องการขึ้นไปพิชิตยอดเขาแห่งนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต 



6. Cinque Torri di Cortina

Cinque Torri di Cortina


ยอดเขาสวยแห่งโดโลไมท์ที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นแท่งเขารูปร่างแปลกตา จำนวน 5 แท่ง มองเห็นได้แต่ไกล แต่ละยอดเขามีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีชื่อเป็นของตัวเอง ประกอบด้วย Torre Grande ยอดเขาที่สูงที่สุดในกลุ่ม Cinque Torri ความสูง 2,361 ม. จากระดับน้ำทะเล / Torre Second / Terza Torre / Quarta Torre และ Quinta Torre นอกจากนี้บริเวณเชิงเขายังมีลักษณะเป็นเนินเขาโล่งกว้างที่เหมาะสำหรับทริปปีนเขาสบาย ๆ หรือเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว



7. Tre Cime di Lavaredo

Tre Cime di Lavaredo


หนึ่งในเส้นทางเดินเขาและจุดถ่ายรูปไฮไลท์ที่มีชื่อเสียง ด้วยทัศนียภาพของยอดเขามหึมา 3 ยอด ในเทือกเขาเซกซ์เทนโดโลไมท์ ตั้งเรียงรายกันอย่างสวยงามตระการตาราวกับภาพวาด เป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของนักเดินเขาทุกคนที่ต้องการมาเห็นกับตา บนเส้นทางที่ยาวกว่า 10.3 กม. ที่คาบเกี่ยวทั้ง เทือกเขา Croda Passaporto และ Monte Paterno 



8. Lago di Braies

Lago di Braies


 “ไข่มุกแห่งโดโลไมท์” หนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ด้วยผืนน้ำสีเขียวมรกตใสราวกับกระจก รายล้อมไปด้วยพืชพันธุ์เขียวชอุ่ม ต้นสนสูงใหญ่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาหินปูนสูงเสียดฟ้า สวยงามอลังการราวกับภาพฝัน รอบ ๆ ทะเลสาบยังมีเส้นทางให้เดินชมธรรมชาติหรือจะพายเรือชมวิวก็ประทับใจไม่แพ้กัน




Myth: มีตำนานเล่าว่า ทุก ๆ 100 ปี ในคืนพระจันทร์จะเต็มดวง ทะเลสาบมรกตแห่งนี้จะมีประตูเปิดสู่ดินแดนใต้พิภพ โดยจะมีเจ้าหญิงออกมาพายเรือและเป่าแตรเสียงดังไปทั่วบริเวณ ทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์พักแรมริมทะเลสาบกันไม่ขาดสาย เพื่อหวังว่าจะได้พบเจอกับตำนานนี้ด้วยตัวเอง 



Why is Dolomites a UNESCO? 



เทือกเขาโดโลไมท์ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองกรณ์ UNESCO ในปีพ.ศ. 2552 ในฐานะแหล่งธรณีวิทยาที่สำคัญต่อการค้นคว้าหินปูนโดโลไมท์ (Dolomitic Limestone) และมีความสำคัญต่อการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลกในตลอด 250 ล้านปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงที่ยังจมอยู่ใต้มหาสมุทรดึกดำบรรพ์ Tethys ก่อนจะโผล่พ้นขึ้นมาตั้งตระหง่านครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 140,000 เฮกตาร์ในอิตาลีตอนเหนือในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้เกิดการก่อตัวที่มีลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโดโลไมท์ที่เรียกกันว่า Dolomite Landscape 



TAG : dolomites italy travel europe

travel 8 Highlights In Dolomites

Sakura Pink

ปรมาจารย์การท่องเที่ยว | Story: 12 | COMMENT: 126 | LIKE: 155

ชื่นชอบการท่องเที่ยว บันทึกภาพถ่ายในทุกๆ การเดินทาง เพราะเราเชื่อว่า ทุกๆ ภาพถ่ายจะสามารถเก็บทุกๆ ความทรงจำ ทุกๆ ความรู้สึก เมื่อวันนึง ที่เราย้อนกลับมามองมันอีกครั้ง

Comment


กรุณาเข้าสู่ระบบก่อน เพื่อแสดงความคิดเห็น